วันเสาร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2555

ตุ๊กตาหมี เท็ดดี้

           " Teddy Bear "


          ในปัจจุบันนี้ ตุ๊กตาหมี หรือ Teddy Bearก็ยังเป็นตุ๊กตาที่สื่อได้ถึงความอบอุ่น ความห่วงใย และความปราถนาดีจากผู้ให้ถึงผู้รับได้ดี ทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย เด็ก หรือ ผู้ใหญ่ สื่อแทนใจนี้ทำให้ตุ๊กตาหมีมีความเป็นอมตะในตัวเอง  ไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยแล้วก็ตาม 

          ปัจจุบันตุ๊กตาหมีได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในฐานะเป็นของสะสมสำหรับเด็ก-ผู้ใหญ่
สำหรับตุ๊กตาของเรามีความแข็งแรง  ชนิดของผ้าที่ใช้ทำตุ๊กตาจะต้องเป็นผ้าชนิดที่ขนไม่หลุดร่วงง่าย  ถ้าเป็นตุ๊กตาหมี ชนิดหมุนแขนหมุนขาได้ จะต้องมีความแข็งแรงที่เด็กไม่สามารถดึงออกมาเองได้ ในส่วนของลูกตาของตุ๊กตาจะต้องมีการตอกยึดกับผ้าไม่ให้หลุดออกมาโดยง่าย 





         เรื่องราวในสหรัฐอเมริกาเล่ากันว่า เทดดี้แบร์มาจากการวาดของนักเขียนการ์ตูนล้อการเมืองที่ชื่อ คลิฟฟอร์ด เบอร์รีแมน วาดภาพที่ชื่อว่า "Drawing the Line in Mississippi" เป็นภาพประธานาธิบดี ธีโอดอร์ รูสเวลท์ ปฏิเสธจะยิงลูกหมีที่ถูกจับล่ามเอาไว้กับต้นไม้ ตามเรื่องราวที่เล่ากันมาบอกว่า ประธานาธิบดีรูสเวลท์ เดินทางไปมลรัฐมิสซิสซิปเพื่อช่วยเจรจาแบ่งเส้นพรมแดนที่มีปัญหากับรัฐลุยส์เซียน่า เจ้าภาพให้การต้อนรับผู้นำของประเทศโดยชวนไปล่าหมีในป่า แต่โชคร้ายที่ไม่พบหมีให้ล่า จึงมีคนหัวใสนำเอาลูกหมีมาให้ยิง แต่ประธานาธิบดีปฏิเสธที่จะยิงหมีที่ถูกล่ามเช่นนั้น ทำให้นายเบอร์รีแมนนักวาดภาพการ์ตูนประทับใจจึงวาดภาพนี้ขึ้นมา 

         การ์ตูนปรากฏใน เดอะวอชิงตันโพสต์ ฉบับวันที่ 16 พฤศจิกายน 1902 และเป็นที่กล่าวขวัญกันมาก เป็นแรงบันดาลใจให้สามีภรรยาที่ชื่อ มอร์ริสและโรส มิชทอมส์ ซึ่งอยู่ในนิวยอร์คทำ ตุ๊กตาหมีขึ้น เพื่อยกย่องการกระทำของประธานาธิบดีรูสเวลท์ ครอบครัวมิชทอมส์ตั้งชื่อ ตุ๊กตาหมี ของตนว่า “ เทดดี้แบร์ ” มาจาก เทดดี้ อันเป็นชื่อเล่นของ ธีโอดอร์ รูสเวลท์ และนำวางโชว์ที่ตู้กระจกหน้าร้านขายลูกกวาดและเครื่องเขียนของตน ตุ๊กตาที่วางโชว์หน้าร้านตัวนี้ ต่างจาก ตุ๊กตาหมี ที่เคยทำกันมาซึ่งมักจะมีหน้าตาดุร้าย และยืนสี่ขาเหมือนกับหมีจริง แต่หมีของครอบครัวมิชทอมส์เป็นลูกหมีดูน่ารัก ไร้เดียงสา ทำให้ ตุ๊กตาหมี “ เทดดี้แบร์ ” ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนครอบครัวมิชทอมส์สามารถตั้งโรงงานผลิต ตุ๊กตาหมี ขึ้นเป็นครั้งแรกในอเมริกา ที่ชื่อว่า Ideal Novelty and Toy 
ภาพการ์ตูนในวอชิงตันโพสต์ขณะเดียวกัน อีกฟากหนึ่งของมหาสมุทร ริชาร์ด ชไตฟ์ ชายหนุ่มผู้ทำงานกับป้า  Margarete Steiff นักธุรกิจของเล่นเด็กในเยอรมัน ริชาร์ดเรียนมาทางด้านศิลปะ เขาชอบวาดรูป และไปที่สวนสัตว์ในสตุตการ์ตบ่อย ๆ เชไตฟ์ จะทำ ตุ๊กตาหมี ในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ขณะนั้นการสื่อสารยังไม่เจริญเท่าใด ทั้งคู่จึงไม่ล่วงรู้ถึงความคิดสร้างสรรค์ของกันและกัน ตุ๊กตาหมี ของมิชทอมส์เป็นลูกหมีตาโต ตามการ์ตูนที่วาดโดยเบอร์รี่แมน ส่วนของหมีชไตฟ์มีลักษณะหลังค่อม จมูกยาว ดูเหมือนลูกหมีจริง ๆ มากกว่า 

         ไม่นานหลังจากนั้น เดือนมีนาคมปี 1903 ในงานแสดงของเล่น เมืองลิปซิกในเยอรมัน ชไตฟ์เปิดตัว ตุ๊กตาหมี ครั้งแรกในงานนี้ แต่พ่อค้าชาวยุโรปไม่ค่อยให้ความสนใจนัก ตรงกันข้ามพ่อค้าของเล่นชาวอเมริกัน ซึ่งรู้ว่าชาวอเมริกันกำลังสนใจ “ เทดดี้แบร์ ” จึงสั่งซื้อทีเดียว 3,000 ตัว ชไตฟ์จึงเข้าสู่ตลาดอเมริกาในจังหวะและโอกาสที่เหมาะสมอย่างที่สุด
คนอเมริกันคลั่งใคล้ ตุ๊กตาหมี เทดดีแบร์ถึงขีดสุดๆพอ ๆ กับความนิยมตุ๊กตาหัวกะหล่ำปลี (Cabbage Patch Kid) ในทศวรรษปี 1980 และตุ๊กตาบีนนี่บาบี้ (Beanie Babie) ในทศวรรษปี 1990 

เวลานั้นสาว ๆ ถือ ตุ๊กตาหมี กันไปทุกหนแห่ง เด็กๆ นิยมถ่ายรูปคู่กับตุ๊กตาเทดดี้แบร์ ประธานาธิบดีรูสเวลต์ ใช้ ตุ๊กตาหมี เป็นสัญญลักษณ์ในการหาเสียงเลือกตั้งจนได้เป็น
ประธานาธิบดีในสมัยที่สอง
ซีมัวร์ อีตัน นักการศึกษาและคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์เขียนหนังสือชุดสำหรับเด็กเกี่ยวกับการผจญภัยของหมีที่ชื่อรูสเวลต์นี้ 

          และล่าสุดKanye  West เจ้าของเพลงฮิต Stronger 
ที่กำลังมาแรงไต่อยู่อันดับที่ 6 ของThe Billboard Hot Top10ในสัปดาห์นี้ (25 สิงหาคม 2550)ใช้ปกแผ่นที่ต้องมีตุ๊กตาหมีเทดดี้ แบร์เป็นเครื่องหมายแห่งโชคลาภของเขาทุกครั้ง
(Let me be your) Teddy Bear เป็นเพลงเอกจาก ภาพยนตร์เรื่อง Loving You นำแสดงโดย เอลวิส เมื่อปี 1957 จากนั้นมาเทดดี้แบร์กลายเป็นสัญญลักษณ์ที่คนทั้งโลกรู้จัก และพากันคลั่งใคล้ตุ๊กตาหมีเทดดี้แบร์ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น